ตัวเลขล่าสุดเกี่ยวกับ Productivity
- จากรายงานปี 2025 พบว่าชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยของแต่ละวันนั้น “สั้นลง” ลงไปอีก 36 นาทีเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนที่การทำงานแบบ Remote จะกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมใหม่ในการบริหารเวลางาน แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ Productivity หรือประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมนั้น “กลับเพิ่มขึ้น” ถึง 2% นั่นหมายความว่าการทำงานแบบใหม่ สามารถทำงานได้คุ้มค่ากับเวลามากขึ้น แม้ว่าจะใช้เวลาทำงานน้อยลง
- กลุ่มที่เลือกทำงานจากระยะไกล (Remote only) เป็นกลุ่มที่เห็นชัดเรื่อง Productivity เพราะผลสำรวจบอกว่ากลุ่มนี้ทำงาน “ได้เวลาจริง” เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงวันละ 29 นาที เมื่อเทียบกับคนที่ต้องแบ่งเวลาทำงานทั้งเข้าออฟฟิศและแบบ Hybrid ทำให้ Productivity ของพนักงานกลุ่มนี้สูงกว่า น่าจะมาจากการบริหารตารางงานของตัวเองและลดเวลาที่เสียไปกับการเดินทางหรือกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับงานโดยตรง
- อย่างไรก็ตาม แม้จะทำงานจากที่บ้านหรือที่ไหนก็ยังมีปัจจัยที่ขัดขวาง Productivity อยู่ พนักงานจำนวนมากถูกขัดจังหวะหรือถูกรบกวนเฉลี่ยทุก 3 นาที ไม่ว่าจะเป็นข้อความออนไลน์ การโทรศัพท์เข้ามา หรือสิ่งรอบตัวที่ไม่เกี่ยวกับงาน ซึ่งทุกครั้งที่เสียสมาธิไป ต้องใช้เวลาถึง 23 นาทีโดยเฉลี่ย กว่าจะกลับมาจดจ่อกับงานเหมือนเดิมได้เต็มที่ ปัญหานี้ยังคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับทั้งพนักงานและองค์กร
- อีกไฮไลต์ที่สำคัญของปี 2025 คือ 58% ของพนักงานมีการนำ AI หรือเทคโนโลยีอัตโนมัติเข้ามาใช้ในงานประจำวัน เพิ่มขึ้นถึง 107% เมื่อเทียบกับปี 2022 การใช้ AI ช่วยให้ทำงานซ้ำซ้อนหรือจัดการข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวัง เพราะหากองค์กรไม่มีการกำหนดเป้าหมายและบริหารการใช้ AI ให้ชัดเจน อาจเกิดสิ่งที่เรียกว่า “AI overload” คือมีงานล้นมือมากกว่าเดิม แถมโฟกัสกับงานสำคัญลดลงด้วย ดังนั้น การจัดการเทคโนโลยีต้องจับคู่กับการให้ความรู้และวางระบบงานอย่างมีทิศทาง เพื่อรักษาสมดุลระหว่างประสบการณ์คนกับเทคโนโลยีและไม่ลดประสิทธิภาพที่ควรจะได้
Productivity ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นกับการเชื่อมโยงข้อมูลและเครื่องมือ
- 50% ของบริษัทใช้ซอฟต์แวร์เฉลี่ย 17 ระบบ แต่มีเพียง 4% ที่เชื่อมต่อทุกระบบได้จริง
- 37% ขององค์กรต้องใช้พนักงานอย่างน้อย 11 คนเพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายระบบ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อ Productivity
- การรวมศูนย์ข้อมูลและเชื่อมโยงแพลตฟอร์มมีความสำคัญมากกว่าการเพิ่มเครื่องมือใหม่ๆ
ปัจจัยสำคัญ – ประสบการณ์ของพนักงาน
- 42% ของบริษัทให้ความสำคัญกับ Employee Experience ในการทรานส์ฟอร์มองค์กร มากกว่าการบริหารสินทรัพย์หรือสถานที่ทำงาน
- กลุ่ม Gen Z (18% ของแรงงาน) ต้องการประสบการณ์การทำงานที่ “ลื่นไหล” และระบบดิจิทัลที่ตอบโจทย์
- องค์กรจึงหันมาเน้นการพัฒนาแอป ลดภาระการตัดสินใจ และให้อำนาจกับพนักงานในการเลือกวิธีทำงาน

AI กับ Productivity Paradox
- 70% ขององค์กรใช้ AI กับ Dashboard และ Chatbot แต่การนำ AI ไปใช้เพื่อ Automation ยังไม่แพร่หลาย
- ปัญหาสำคัญที่ขัดขวาง Productivity: ไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูลข้ามระบบ (52%), ข้อมูลไม่มีคุณภาพ (48%), ขาดความเชี่ยวชาญด้าน AI ภายในองค์กร (58%)
ออฟฟิศยุคใหม่และการวางแผนพื้นที่ทำงาน
- การจองที่นั่งทำงานในอาคารเพิ่มขึ้น 33% ทั่วโลก และ 34% ของบริษัทวางแผนเพิ่มวันเข้าออฟฟิศมากขึ้นในปี 2025
- วันที่มีพนักงานเข้าออฟฟิศหนาแน่นคืออังคาร-พฤหัสบดี ออฟฟิศจึงจำเป็นต้องบริหารจัดการพื้นที่ให้ dynamic เพื่อลด frictions และเพิ่ม productivity
บทสรุป
ในปี 2025 ความหมายของ Productivity หรือประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้วัดกันที่ปริมาณงานเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่คือการ “ทำงานอย่างชาญฉลาด” โดยองค์กรชั้นนำจะเน้นการเชื่อมโยงข้อมูล เครื่องมือ และสถานที่ทำงาน เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่ราบรื่น สอดรับกับเป้าหมายที่ต้องการ ความสำเร็จในยุคนี้ไม่ได้ขึ้นกับการมีเทคโนโลยีหรือระบบมากที่สุด แต่ขึ้นกับการบูรณาการเครื่องมือต่างๆ ให้เรียบง่าย พร้อมเสริมพลังให้พนักงานสามารถใช้งานได้เต็มที่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างผลลัพธ์และความก้าวหน้าที่ยั่งยืนในองค์กรยุคใหม่
พร้อมเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจคลินิกแบบมืออาชีพกับ Fast b Skills!
ในคอร์ส “เจาะธุรกิจพิชิตยอดขายคลินิก” เราเริ่มสอนตั้งแต่การเข้าใจลูกค้า การตลาดออนไลน์ ยิงแอดหาเป้าหมายจริง การทำคอนเทนต์ให้ขายได้ ปิดการขายอย่างมือโปร ไปจนถึงงานดูแลลูกค้าหลังการขาย
ซื้อวันนี้ รับฟรี! บทโบนัส “ข้อกฎหมาย การซื้อยา การจ้างหมอ และการบริหารบุคลากรคลินิก” ที่เจ้าของคลินิกมือใหม่ต้องรู้
ราคาพิเศษ 5,900 บาท ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น! สามารถไปดูคอร์สได้ ที่นี่
สมัครตอนนี้ เปลี่ยนธุรกิจคลินิกของคุณให้โตอย่างยั่งยืน!
สนใจรับคำปรึกษาหรือให้ทีม Fast B Marketing ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจคลินิกของคุณ? ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดคลินิกโดยตรงได้ที่ 👉 fast b marketing เราพร้อมให้คำปรึกษา ช่วยวางกลยุทธ์และดูแลทุกองศาการตลาดธุรกิจคลินิกของคุณ!
แหล่งที่มา: Source